สวัสดีครับ

ถ้าผมบอกว่า "ไปทานเกี๋ยมม้วยกัน" คาดว่าหลายๆคนคงจะงงเป็นไก่ตาแตกว่า ผมชวนไปทานอะไรกัน  แต่ถ้าผมบอกว่า"ไปทานข้าวต้มเครื่องกัน" คงจะอ๋อ!กันใช่มั้ยครับ

แล้วถ้าถามว่า "ข้าวต้มเครื่องจริงๆแล้วเป็นยังงัย?" คงมีคนจำนวนไม่น้อยตอบว่า "ก็คือ ข้าวต้มกุ๊ยใง" 

จริงๆแล้ว ข้าวต้มเครื่องกับข้าวต้มกุ๊ยเป็นคนละอาหารคนละอย่างกันครับ  ข้าวต้มกุ๊ยเป็นอาหารที่สั่งตามรายการ(อาจจะพูดอย่างหรูๆได้ว่า ข้าวต้มกุ๊ยเป็น a la carte ตามแบบฉบับคนจีน) เป็นกับข้าวจานๆ ทานคู่กับข้าวต้มเปล่า  ส่วนข้าวต้มเครื่องที่ใส่เครื่องลงไปรวมกับข้าว เป็นอาหารจานเดียว(Main plate)

ข้ามต้มเครื่องเป็นอาหารของคนจีนแต้จิ๋ว "ข้าวต้ม" คนจีนเรียกกว่า "ม้วย" แต่บางทีก็ใช้เรียกข้าวต้มเครื่องได้เหมือนกัน  แต่จริงๆแล้ว ข้าวต้มเครื่อง ใช้คำว่า "เกี๋ยมม้วย" ( " เกี๋ยม " เป็นว่า เค็ม)

ข้าวต้มเครื่องเป็นอาหารคู่ชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทานกันแทบจะทุกมื้อ ไม่ว่าจะเป็น มื้อ เช้า กลางวัน เย็น ดึก หรือทานเป็นอาหารว่าง นอกจากนี้ ข้าวต้มเครื่องยังเป็นอาหารสำหรับคนป่วย เพราะเป็นอาหารอ่อน ทานง่าย และช่วยให้อุ่นท้อง  ถึงมีคำว่า "หยอดน้ำข้าวต้ม" ที่ใช้เรียกคนป่วย

ข้าวต้มเครื่องยังเป็นอาหารที่ใช้เสิร์ฟในงานศพด้วย  เรียกว่า "ข้าวต้มงานศพ" ซึ่งเป็นเป็นธรรมเนียมของฝ่ายเจ้าภาพที่จะต้องเลี้ยงขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน  และในหลายๆครั้ง ข้าวต้มเครื่องยังเป็นเครื่องบ่งบอกถึงฐานะของฝ่ายเจ้าภาพได้ด้วย

ถ้างานไหนเลี้ยงข้าวต้มหอยเป๋าฮื้อ ก็จะเป็นการแสดงถึงฐานะที่ร่ำรวยของฝ่ายเจ้าภาพ เพราะเป๋าฮื้อจัดเป็นอาหารที่ราคาแพงมาก  แต่โดยส่วนใหญ่ข้าวต้มงานศพจะเป็น ข้าวต้มเครื่องอย่างง่ายๆ ต้มเป็นหม้อใหญ่ ใส่เครื่อง(กุ้ง ปลาหมึก หมู) อย่างที่เห็นในงนศพทั่วๆไป

ถ้าจะหา"ข้าวต้มเครื่อง"ตำรับแต้จิ๋วแท้ๆในกรุงเทพ ก็คงจะหนีไม่พ้นเยาวราช  เพราะเป็นแหล่งของชาวจีนแต้จิ๋วที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

เป็ฯที่น่าเสียดายที่ว่า ถึงแม้ว่าข้าวต้มเครื่องจะเป็นอาหารคู่ชาวจีนแต้จิ๋ว แต่กลับมีร้านข้าวต้มเครื่องตำรับแต้จิ๋วหลงเหลืออยู่ไม่ถึง 5  ร้านในเยาวราช

ร้าน "ข้าวต้มเครื่องเฉลิมบุรี" หรือข้าวต้ม "อาแป๊ะ" (ชื่อนี้ผมตั้งขึ้นมาเองตามอาแป๊ะที่เป็นเจ้าของร้าน) เป็นร้านข้าวต้มเครื่องกระดูกหมูตามตำรับแต้จิ๋วแท้ๆ(ในไม่กี่ร้าน)ที่ยังคงเปิดขายอยู่

ร้านข้าวต้มอาแป๊ะ

ร้านนี้อยู่ถ.เจริญกรุง ตรงแยกหมอมี ถ้ามาจากวัดมังกร ตรงมาเรื่อยๆจะแยกแปลงนาม แยกเฉลิมบุรี และแยกหมอมี ด้านขาวจะเจอคั่นกี่(น้ำเต้าทอง) ถัดไปอีก 2-3 ห้องก็จะเจอ ร้าน สิงคโปร์โภชนา ข้าวต้มอาแป๊ะ เป็นเพิงเล็กๆในตรอกข้างๆร้าน สิงค์โปรโภชนา  หรือถ้าไปไม่ถุกก็ถามคนคนเยาวราชว่า ไปคั่นกี่ยังงัย แล้วเดินเลยมาอีกนิดก็จะเจอได้อย่างง่ายๆ

อาแป๊ะเจ้าของร้าน

ข้าวต้มเครื่องร้านนี้จะเป็นข้าวต้มเครื่องน้ำข้น  ซึ่งเป็นตำรับข้าวต้มเครื่องแต้จิ๋วอย่างแท้จริง  ที่ไม่แยกทำข้าวกับน้ำ  (ร้านส่วนใหญ่จะหุงข้าวให้สุกก่อน แล้ว ต้นน้ำใส่เครื่อง ตักข้าวใส่ ทำให้ข้าวต้มเครื่องที่ได้จะ น้ำใส)   และที่ถือเป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้คือ ใช้กะทะต้มข้าวต้ม! 

ข้าวต้มเครื่องอาแป๊ะ

ข้าวต้มเครื่องที่นี่จะทนคู่กับ ปาท่องโก๋ ที่มีตลอดทั้งวัน แม้ว่าจะมาตอนดึกๆก็จะเสิร์ฟข้าวต้มเครื่องพร้อมปาท่องโก๋  เพราะปาท่องโก๋ ทำให้อิ่มอยู่ท้อง

ข้าวต้มเครื่องกระดูกหมู

ข้าวต้มเครื่องร้านนีจะเป็นข้าวต้มเครื่อง กระดูกหมูและเนื้อหมู  ใส่ไข่ยางมะตูม  โดยจะใส่ไข่กี่ฟองก็ได้ตามแต่ชอบ

ด้วยน้ำที่ข้นไปด้วยรสชาติกระดูกหมูหวานกลมกล่อม เนื้อหมูเปื่อยนุ่มทานง่าย เม็ดข้าวพองโตได้ที่  มีกระดูกอ่อนเคี้ยวกรุบๆ ทานคู่กับ ปาท่องโก๋ ทำให้ข้าวต้มเครื่องอาแป๊ะอร่อยอย่างหาร้านไหนมาเคียงคู่ได้ยากยิ่ง

ถ้าสั่งใส่ถุงเห็นที่มัดที่ใช้เชือกฟาง 

ซึ่งหาได้ยากในปัจจุบัน

สั่งใส่ถุงน้ำข้าวต้มจะสีเหลือง ไม่เหมือนทานที่ร้านที่น้ำจะสีขาว เพราะไข่ที่ใส่มาจะแตกผสมไปกับน้ำจนเป็นสีเหลือง  ก็ได้ความอร่อยไปอีกแบบหนึ่ง

ร้านจะเปิดขายตั้งแต่ 12.00 น. - 22.00 น. ถ้าได้แวะไปทานข้าวต้มเครื่องอาแป๊ะ แล้ว อย่าลืม ทน ลอดช่องสิงค์โปร์ร้านที่อยู่ติดกันด้วยล่ะ เพราะร้านนี้คือ ต้นตำรับลอดช่องสิงค์โปร์เจ้าแรกในประเทศไทย!

จริงๆแล้วข้าวต้มเครื่องก็สามารถทำทานเองได้ที่บ้านอย่างง่ายๆ  โดยใช้ข้าวสารต้มไปกับน้ำซุป ใส่เครื่องตามชอบลงไป  ตักใส่ชาม โรยกระเทียมเจียว ต้นหอม ผักชี เหยาะพริกไทยลงไป แค่นี้ก็อร่อยแล้วครับ 

ผมมีสูตรข้าวต้มเครื่องกระดูกหมูมาให้ลองทำทานกันดูครับ

ส่วนผสม

- ข้าวหอมมะลิเก่า (ข้าวเก่าจะทำข้าวต้มอร่อยกว่า เพราะ ยางข้าวน้อยกว่า ยางข้าวก็คือ สิ่งที่เป็นสีขาวๆในน้ำข้าวต้มน่ะล่ะ)

- น้ำซุป หรือ น้ำเปล่า

- กระดูกซี่โครงหมูและกระดูกอ่อน

- ตังฉ่าย (เศษผักกาดองที่โรยเกลือแล้วตากแดด มีขายที่ ซอยอิศรานุภาพในเยาวราช หรือ ตามตลาดสดทั่วๆไป ตังฉ่ายจะเพิ่มรสเค็มทำให้ข้าวต้มอร่อยขึ้น)

- กระเทียมเจียว

- ต้นหอมซอย

- ไข่ไก่

- น้ำปลา หรือซีอิ๋ว

- พริกไทย

- น้ำตาลกรวด(ใช้แทนผงชูรส)

วิธีทำ

ต้มน้ำให้เดือดใส่ข้าวสารกระดูกหมูลงไป  ต้มจนข้าวสุก  ต้องหมั่นช้อนฟองออก  ปรุงรสด้วย ตังฉ่าย น้ำปลา พริกไทย น้ำตาลกรวด ตามชอบ  ตักใส่จาน ตอกไข่ยางมะตูมโปะหน้า โรยด้วย ต้นหอมซอย กระเทียมเจียว เหยาะพริกไทย ตามชอบ 

วิธีต้มไข่ให้เป็นยางมะตูมอย่างง่ายๆ  ต้มน้ำใส่หม้อใบเล็กให้เดือดจัดๆ ปิดไฟ ใส่ไข่ไก่ลงไป แล้วปิดฝา ใช้เวลา 3 นาที ตักไข่ขึ้นมา แค่นี้ก็ได้ไข่ยางมะตูมแล้วครับ

ทำตามสูตรนี้ผู้ชายเจ้าชู้รับรองว่า อร่อยเหาะ! ครับ เพราะผมทำทานอยู่ที่บ้านประจำ

เคล็ดลับข้าวต้ม

- ควรจะต้มข้าวสารด้วยไฟกลาง หมั่นคนจนเดือ และสังเกตุให้ดีๆพอข้าวเริ่มเป็นตากบ(เรียกให้หรูๆว่า อัลดันเต้) คือเมล็กข้าวจะยังมีไตแข็งๆข้างในอยู่ตรงกลาง แล้วลดไปลง  จะได้ข้าวต้มที่อร่อยยิ่งขึ้น

- ลองทานปาท่องโก๋ เป็นเครื่องเคียงด้วยซิครับ รับรองว่า อิ่มอร่อย อยู่ท้อง

ปล.

- เห็นอาแป๊ะยืนทำข้าวต้มทั้งวันแบบนี้นี่ แกอายุ 74 ขวบ แล้วนะครับ ฟิตจริงๆ  พอถามอาแป๊ะว่า ทำยังงัยถึงยังแข็งแรงแบบนี้ แกตอบมาว่า "ก็ทำงานเยอะๆ ถือเป็นการออกกำลังไปในตัว และที่สำคัญ ต้องทานข้าวต้มของอั๊วะใง! 55555" (อาแป๊ะภูมิใจเสนอมากๆ)

- ลองไปทานข้าวต้มอาแป๊ะกันนะครับ  อาแป๊ะน่ารักครับ คุยง่าย แต่อาจจะพูดฟังลำบากหน่อยนะครับ  (ถ้าชมแกเยอะอาจจะได้แถมปาท่องโก๋แบบผมก็ได้นะ 5555)

- อันนี้สำหรับสาวๆที่ชอบ หนุ่มตี๋เข้มขรึม  บางที อาแปะก็เข้าไปพัก แล้วจะมี หนุ่มตี๋เข้มขรึมมายืนทำข้าวต้มแทน รับรองถ้าได้เห็นแล้วจะต้องกรี๊ดกร๊าดแน่ๆครับ (ผมเดาๆเอาว่าเป็นลูกชายของอาแป๊ะ  แต่เขาไม่ค่อยออกมานะ นานๆจะเจอซักที =_="  อย่าเข้าใจว่าเป็นคนเดียวกับคนงนที่ช่วยเสิร์ฟนะครับ คนละคนกัน)

- ถ้าใครไปไม่ถูกก็ถามทางคนเยาวราชว่า คั่นกี่ ไปยังงัย แล้ว เดินเลยไปอีก2-3 ห้องก็เจอแล้วครับ

- ลองทำข้าวต้มกระดูกหมูกันดูนะครับ ทำง่ายๆไม่ยุ่งยากครับ แถมอร่อยเหาะ! (สูตรนี้ผมทำทานประจำครับ)

- ผู้ชายเจ้าชู้ยังคงขาเดี้ยงครับ T.T คิดว่าเย็นนี้คงไปหาหมอล่ะครับ (ไม่อยากโดนถอดเล็บเลยให้ตายซิ!!)