สวัสดีครับ

ข้าวต้มปลาเป็นอาหารที่ดูง่ายๆแต่ความจริงแล้วทำยากครับ เพราะเนื้อปลาจะมีความคาวเวลาที่นำมาทำข้าวต้มจะต้องหาวิธี"ดับคาว"ให้ได้  นี่นับขั้นแรกของการทำข้าวต้มปลา

ขั้นต่อมาคือ เนื้อปลาจะร่วนและแตกง่ายเมื่อถูกคนหรือกระทบระหว่างปรุง  หลายๆร้านจึงลวกเนื้อปลาไว้ต่างหาก แล้วตักใส่ชามที่หลัง  แต่วิธีนี้จะทำให้เนื้อปลาไม่มีรสชาติเป็นหนึ่งเดียวกับน้ำซุปและเนื้อข้าว

ขั้นที่สาม เนื้อปลาจะต้องสดใหม่เท่านั้น  เพราะเนื้อปลาที่ไม่สดใหม่จะเหม็นคาวมากผิดปกติ  และจะไม่มีรสอร่อยเลย

ขั้นที่สี่ การที่จะดึงรสอร่อยของเนื้อปลาให้ออกมานั้นเป็นเรื่องยากยิ่งกว่ายาก  เพราะเนื้อปลาจะมีวิธีการปรุงอยู่ไม่กี่วิธีเท่านั้น

ขั้นที่ห้า สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับข้าวต้มปลา คือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยว  น้ำจิ้มจะเป็นจุดชี้ขาดฝีมือของแต่ละร้านกันเลยทีเดียว

ข้าวต้มปลาท่าฉลอม

วันนี้ผู้ชายเจ้าชู้ชวนชิมภูมิใจนำเสนอ"ข้าวต้มปลาท่าฉลอม" ร้านที่สามารถทำข้าวต้มปลาได้ดีเยียมทั้ง 5 ขั้นตอนในข้างต้น

ร้านจะเป็นเพิงเล็กๆเก่าๆตั้งอยู่ริมถนนในซอยย่อย(ทางสลับซับซ้อนพอสมควร)

เห็นเป็นเพิงเล็กๆเก่าๆแบบนี้นี่ อย่าเพ่งคิดว่าเป็นร้านซั่วๆธรรมดานะครับ  ร้านนี้นี่จัดว่าเป็นร้านข้าวต้มที่อร่อยที่สุดในท่าฉลอม  และถ้าบวกน้ำจิ้มไปด้วยแล้ว ร้านนี้จัดว่าเป็นข้าวต้มปลาที่อร่อยรองจาก 4 จตุเทพข้าวต้มปลาในตำนานเลยทีเดียว(4 ร้านโปรดของผมเองครับ)

ลูกค้าของร้านนีจะมีแต่ลูกค้าขาประจำรุ่นเก๋าเท่านั้น   ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของโรงงานหรือไม่ก็ท่าเรือในมหาชัยและท่าฉลอม มานั่งทานกันเป็นประจำทุกวัน ร้านดูโลๆ แต่รับรองครับว่าคนทานนี่ไม่โลๆเลย

ข้าวต้มปลากระพง

ปลาของที่ร้านรับรองได้เลยว่า สดใหม่ 100% ไม่มีของค้างคืนแน่ๆ  เพราะทางร้านจะซื้อปลาจากท่าเรือเจ้าประจำ  ทำให้ได้ปลาที่สดใหม่และขนาดใหญ่(ทำให้ได้ความหวานของเนื้อปลามากขึ้น)อย่างแน่นอน

ข้าวต้มปลา + บะเต็ง

บะเต็งของที่นี่จะไม่ใช่หมูสามชั้น  เพราะจะเลี่ยนเกินไป  แต่จะใช้เนื้อสันใน นำมาตุ๋นเคี๋ยวตามสูตรที่คิดขึ้นมาเอง  ทำให้บะเต็งจะนิ่มรสชาติเข้มข้น

เกาเหลารวมมิตร

เครื่องในที่นี่ทำได้ถูกต้องตามหลักข้าวต้ม  คือไม่มีกลิ่น ไม่เหยียว รสชาติกลมกล่อมไม่เข้มข้น  เลือดก็เข้าข้ม  และยิ่งใส่มาในชามเดียวกับ บะเต็งและเนื้อปลากระพงด้วยแล้ว "อร่อยเหาะ!"

น้ำจิ้มที่เป็นอีกขั้นหนึ่งของข้าวต้มปลา

น้ำจิ้มที่นี่เป็น ทีเด็ดสุดๆๆ!!  ปกติแล้วน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวจะมีรสเค็มๆและกลิ่นเต้าเจี้ยวแรง เพื่อดับความคาวของเนื้อปลา  ทำให้หลายๆคนไม่ชอบและจะไม่ทานน้ำจิ้ม

แต่ถ้าใครที่มาทานข้าวต้มปลาของร้านนี้แล้วไม่ทานน้ำจิ้ม  แสดงว่า"คุณยังมาไม่ถึงร้านข้ามต้มปลาท่าฉลอม"ครับ

น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่นี่แตกต่างจากน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวของร้านข้าวต้มปลาทุกร้านที่ผู้ชายเจ้าชู้ชวนชิมเคยทานมาทั้งหมดตั้งแต่แรกจำความได้   เพราะไม่มีรสเค็มเลย!!  แถมกลิ่นเต้าเจี้ยวก็จางมาก  และทีเด็ดก็คือ หอมกลิ่มกระเทียมมากๆ แถมยังมีความเผ็ดร้อน และรสเปรี๊ยวผสมด้วย

"ประมาณน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว+น้ำจิ้มซีฟู้ด"

ทางร้านได้เอาจุดอร่อยของน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวและน้ำจิ้มซีฟู้ดมารวมกัน  นี่นับเป็นวิวัฒนาการอีกขั้นหนึ่งของน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวเลยทีเดียว!!

ใครจะคีบเนื้อปลามาจิ้นน้ำจิ้มทาน หรือจะเทน้ำจิ้มลงในชามเลย ก็อร่อยทั้งนั้น

ขนาดป๊าผมที่จัดว่าเป็นคนที่ชอบทานข้าวต้มปลาตัวยง ยังยกให้น้ำจิ้มของที่นี่เป็นน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวที่อร่อยที่สุดเท่าที่ป๊าเคยทานมา

ข้าวต้มปลาท่าฉลอมและน้ำจิ้มจะอร่อยจริงจริงอย่างที่ผู้ชายเจ้าชู้ชวนชิมแนะนำหรือเปล่านั้น คุณๆคงต้องพิสูจน์กันให้ประจักต์ด้วยลิ้นของคุณๆเองล่ะครับ  แต่ผมขอท้าเลยว่า ถ้าใครทานแล้วไม่อร่อย  ผมยินดีพาคุณไปเลี้ยงข้าวต้มปลาร้านนี้อีกครั้งนึงเลยครับ ^0^"(กำลังหาคนไปทานด้วยอยู่พอดี)

ร้าน "ข้าวต้มปลาท่าฉลอม"

อาหารแนะนำ : ข้าวต้มปลากระพง , ข้าวต้มบะเต็ง , ข้าวต้มเป็ด และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

ที่อยู่ : ท่าฉลอม (ทางลึกลับพอสมควรครับ  แนะนำให้โทรไปถามทางจากที่ร้านจะแน่นอนกว่าครับ)

ราคา : ปานกลาง  รับรองว่าคุ้มค่าแน่นอน

เวลาเปิด : ประมาณ 18.00น.-22.00น.

เบอร์โทรศัพท์ : 086-504-4503

ปล.

- ข้าวต้มปลาร้านนี้ทีเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้มครับ

- ทางไปร้านค่อนข้างสลับซับซ้อนนะครับ  แต่คุ้มค่ากับการแซะหาแน่ๆครับ

- ช่วงนี้ผมใช้ชีวิตเป็นคนกลางคืนเต็มที่ครับ ทำวิทยานิพนธ์ตั้งแต่ 5 ทุ่ม ถึง 6 โมงเช้า แล้วนอนตื่นเที่ยง =_="  ผมเวลาทำงานตอนกลางคืนนะ  มันมีสมาธิมากกว่า และเป็นการแก้เหงาไปในตัวด้วย ^^

- อันนี้แถมให้ครับ เห็นว่าไม่ไดอัพ blog ซะนาน ^^