กำเนิด วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2325 เวลา 06.54 น.
มฤตยูจร (0) กำลังเดินอยู่ในราศีเมษ ระหว่าง 6 มีนาคม 2559-8 กรกฎาคม 2565 มฤตยูจร (0) จะย้ายไปเดินอยู่ราศีพฤษภ ระหว่าง 8กรกฎาคม 2565-18 กรกฎาคม 2572
“เมืองไทยหรือกรุงเทพฯ เขาไม่ได้สร้างขึ้นมาบนหัวหลักหัวตอหรือตามทุ่งไร่ปลายนาที่ไม่มีความหมาย แต่มันเป็นชัยภูมิที่ถูกต้องตามตำราสร้างบ้านสร้างเมืองของคนโบราณที่ทำตามคัมภีร์ที่ชื่อ คัมภีร์ พระนครฐาน เขาจะรวบรวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มาฝังเป็นอาถรรพ์ไว้ จะมีการสวดมนต์และสาปแช่งอย่างหนัก ทั้งพุทธและพราหมณ์ เฉพาะกรุงเทพฯ โบราณเขาว่าทั้งสี่ทิศของพระนครนี้จะมีอาถรรพ์ฝังไว้รอบ ศัตรูร้ายที่ไหนเข้ามาบ่อนทำลายมันจะต้องมลายทุกราย เพราะงั้น เมืองไทยถึงรอดมาได้…. ข้อความทั้งหมดนี้คัดมาจากหนังสือ โหราศาสตร์ เศรษฐกิจและการเมือง เขียนโดย ยอดธง ทับทิวไม้ ครูโหรผู้ล่วงลับ หัวข้อ การสร้างบ้านสร้างเมืองสมัยโบราณ และกรุงเทพฯ มหานคร ซึ่งผู้เขียนขอละเว้นเรื่องอาถรรพ์ทั้งหลายของเมืองรัตนโกสินทร์ตามข้อเขียนนี้ แต่จะพิจารณาถึง ความขลังของดวงเมืองเพียงสถานเดียว ในส่วนที่ครูโหรยอดธงบอกว่า เมืองไทยถึงรอดมาได้.. และเป็นการรอดทุกสถานการณ์ความท้าทายดังนี้ ย้อนกลับไปขณะที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รัชกาลที่หนึ่ง แห่งราชวงศ์จักรี ที่ทรงให้ย้ายเมืองหลวงจากธนบุรีมาสร้างที่ฝั่งพระนคร แล้วทรงให้คณะโหร-ชีพ่อพราหมณ์หาฤกษ์ลง-วางเสาหลักเมือง ตามพระราชพิธีพระนครฐานอันเป็นวินาทีที่ดวงชะตาเมืองถือกำเนิด นั้น สยามอยู่ท่ามกลางความแตกแยกภายในและศึกใหญ่ พระเจ้าปดุงกำลังจะมา นั่นคือ เมืองถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความแตกแยกและภัยสงคราม ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีเรื่องเล่าที่อ่านพบในตำนานเรื่อง "เล่า"ศาลหลักเมือง"กรุงเทพมหานคร” ที่ตีพิมพ์ใน ww w.sanook.Com ว่า เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดฯ ให้โหรผูกชะตาเมืองกรุงเทพฯ ที่(กำลัง) จะสร้างขึ้นใหม่นั้น โหรหลวงได้ทูลเกล้าฯ ถวายดวงเมือง 2 แบบคือ ดวงเมืองแบบหนึ่ง บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรือง ไม่มีเหตุวุ่นวาย แต่ทว่าจะต้องมีอยู่ระยะหนึ่ง ที่ประเทศไทย (สยาม) ต้องตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติ ส่วนอีกดวงเมืองหนึ่งนั้น ประเทศไทยจะมีแต่เรื่องยุ่งวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุด แต่ทว่าจะสามารถรักษาเอกราชได้ตลอดไป ปรากฏว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงเลือกดวงเมืองตามแบบหลัง เพราะพระองค์คงจะทรงเห็นว่าการที่จะต้องตกไปเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่นนั้น แม้บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองแค่ไหน ก็ไม่มีความหมายอันใด เมื่อสิ้นความเป็นไทย…… เรื่องเล่านี้จะจริงหรือไม่ ผู้เขียนไม่อาจยืนยันได้ เพียงแต่มีผลอันมหัศจรรย์ที่ได้พิสูจน์ถึงการออกแบบชะตาเมืองตามทางเลือกที่สองตามตำนาน ณ วินาทีที่เมืองถือกำเนิด (ถ้าเป็นคนเรียกเวลาตกฟาก) วันอาทิตย์ที่ 21เมษายน 2325 เวลา 06.54 น. ผูกดวงชะตาแล้วลัคนาสถิตราศีเมษ ธาตุไฟ (ดังรูป-เลขไทย) นั้นคือ แม้วาสนาของเมืองจะยุ่งยากวุ่นวายไม่มีที่สิ้นสุดคล้ายๆคนไทยชอบทะเลาะกันเองเป็นอาทิ แต่ทุกคราวที่เกิดวิกฤตการณ์ขนาดใหญ่แค่ไหน เมืองรัตนโกสินทร์ที่ออกแบบมาให้เข้มแข็งก็รอดปลอดภัยทุกครั้ง แถมด้วยโอกาสดีๆ ที่จะตามมา คือ 1.สงครามเก้าทัพที่เกิดปี พ.ศ.2328 หลังวางเสาหลักเมืองไม่นาน พระเจ้าปดุง กษัตริย์พม่ายกทัพมาทุกทิศทางเพื่อโจมตีสยาม ขนาดกำลังพลมากกว่าสยามถึงสองเท่า เมื่อสู้กันถึงที่สุดแล้ว พระเจ้าปดุงก็แพ้ภัยด้วยปัญหาภายในยกทัพกลับไปเอง และราชอาณาจักรสยามขยายเขตแดนไปกว้างไกลมาก 2.ต่อมาช่วงประเทศตะวันตกล่าเมืองขึ้นทุกประเทศแถบนี้สูญเสียเอกราชหมด มีเพียงสยามประเทศเดียวที่รักษาเอกราชไว้ได้สอดคล้องกับเรื่องเล่าในตำนานดวงเมืองแบบที่สอง แม้จะแลกกับการเสียดินแดนมากกว่าดินแดนของไทยในปัจจุบันแบบ จำแขนขาด แต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก็ทรงพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัยมากมาย 3.สงครามมหาเอเชียบูรพาที่กองทัพญี่ปุ่นบุกไทยเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ส่งกำลังพลเข้ารุกรานในหลายพื้นที่ชายทะเลของไทยได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ไทยจำเป็นต้องเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตร จนคนไทยต้องวิ่งหนีลูกระเบิดที่เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรทิ้งใส่ เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามไทยกลับพลิกเป็นฝ่ายชนะ 4.เมื่อกองทัพเวียดนามที่เข้มแข็งเป็นอันดับสามของโลกเพราะชนะสงครามกับสหรัฐอเมริกายกทัพประชิดชายแดนไทยช่วง พ.ศ.2522–2532 เพื่อรุกไล่กลุ่มชาวกัมพูชาที่ต่อต้านการยึดครองของเวียดนามหลังพนมเปญแตก ตรงกับช่วงรัฐบาลพลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ ต่อเนื่องถึงรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จนปะทะกับทหารไทยที่ชายแดนหลายครั้ง ขณะนั้นกองทัพไทยเมื่อเปรียบเทียบกับเวียดนามแล้วนั้น เทียบกันไม่ติด แต่จู่ๆ 17 กุมภาพันธ์ 2522 กองทัพเวียดนามก็หายไปจากชายแดนไทยชั่วข้ามคืนเพื่อไปทำสงครามกับจีนที่เรียกกันว่าสงครามสั่งสอน ส่วนสถานการณ์ลัทธิคอมมิวนิสต์ในประเทศเองนั้น แม้คนไทยบางส่วนจะจับอาวุธสู้กับอำนาจรัฐยาวนาน แต่ในที่สุดก็ออกมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในช่วงรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ 6.วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้งปี 2540 (ผู้เขียนอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเป็นนักข่าวการเมืองของสำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์) ที่ไทยเหมือนสูญเสียเอกราชทางเศรษฐกิจ แต่เมื่อลุกขึ้นได้แล้ว ครั้นเมื่อเกิดวิฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ที่เริ่มปี 2550 คนไทยที่ได้ประสบการณ์ตั้งแต่ปี 2540 กลับได้ผลกระทบน้อย ฯลฯ กล่าวโดยสรุปจากบทเรียนในอดีตคือเรื่องเล่าตำนานวางเสาหลักเมืองกับทางเลือกที่สองของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ก็ขลังอย่างไม่น่าเชื่อ อันเป็นไปตามเรื่องเล่าดวงชะตาเมืองออกแบบมาในแบบวุ่นวายไม่เลิก แต่ก็เข้มแข็งมากกับการถูกท้าทายทุกรูปแบบให้รอดปลอดภัยแบบไม่น่าเชื่อ และเมื่อฟันฝ่าวิกฤติขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในแต่ละรอบแล้ว กลับมีโอกาสตามมาทุกครั้ง คล้ายๆ ที่ ดร.เสนาะ อูนากูล อดีตรองนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ พูดจนติดสมองผู้เขียนทุกวันนี้คือ ในวิกฤติ ก็มีโอกาส และการท้าทายเมือง-ชะตาเมืองนี้ น่าจะ รวมทั้งการจะลดความสำคัญของกรุงรัตนโกสินทร์ลงด้วยการสร้างเมืองหลวงใหม่ ที่เมื่อมีความพยายามแล้วไม่ประสบความสำเร็จสักครั้งอย่างที่เห็นๆ คือ 1.ปี 2487 จอมพลแปลก พิบูลสงคราม อดีตนายกรัฐมนตรีสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 คิดจะย้ายเมืองหลวงไปจังหวัดเพชรบูรณ์ ขนาดลงมือไปมากแล้ว แต่มีอันแพ้มติในสภาย้ายไม่สำเร็จในที่สุด 2.สมัย ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เคยคิดจะย้ายเมืองหลวงไปที่นครนายก 3.พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ ก็เคยคิดที่จะย้ายเมืองหลวงไปที่ท่าตะเกียบ ฉะเชิงเทรา ฉะนั้นแม้การมาถึงของมฤตยูจรรอบนี้ (ระหว่างมีนาคม 2559-กรกฎาคม 2565) ถูกโฉลกกับการปฏิวัติ-วางแผนปฏิวัติใหญ่ในเมืองในระดับ “ครั้นเมื่อถึงเดือนกรกฎาคม 2565แล้ว หากเรายืนอยู่ข้างกำแพงพระนคร เราจะถามตัวเองว่าเมืองรัตนโกสินทร์มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร” ก็ยัง ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ท้าทายสถานะของเมืองหลวงรัตนโกสินทร์ ดังนั้นทางเลือกที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เสนอให้คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติศึกษาคือ ย้าย หรือขยายเมืองหลวง นั้น ทางเลือกที่สองคือ ขยายเมืองหลวง แต่กรุงรัตนโกสินทร์หรือกรุงเทพฯ ยังคงสถานะเดิม น่าจะถูกโฉลก เพราะหากเอะอะโครมคราม-ซ่าส์-ท้าทายถึงขนาดย้ายเมืองหลวงแล้วเกรงว่าโครงการจะล่มเพราะอาถรรพ์ดวงเมือง ตอนต่อไปจะว่าด้วยหลักโหรถึง ความวุ่นวายแต่รอดปากเหยี่ยวปากกามาได้ทุกครั้ง ของกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมทั้งตอบคำถามว่า เมื่อเปลี่ยนแปลงใหญ่ขนาดขยายเมืองหลวงออกไปแล้ว ดวงชะตาเดิมของเมืองรัตนโกสินทร์กระทบกระเทือนหรือไม่? (ยังมีต่อ)
ขอบคุณ ไทยโพสต์ คุณฟองสนาน จามรจันทร์ อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ |
ถึง บล็อกเกอร์ ทุกท่าน โปรดอ่าน
ด้วยทาง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ติดต่อขอความร่วมมือ มายังเว็บไซต์และเว็บบล็อกต่าง ๆ รวมไปถึงเว็บบล็อก OKnation
ห้ามให้มีการเผยแพร่ผลงานอันมีลิขสิทธิ์ ของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ บนเว็บ blog โดยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ห้ามทำ และสามารถทำได้ ดังนี้
ห้ามทำ - การใส่ผลงานเพลงต้นฉบับให้ฟัง ทั้งแบบควบคุมเพลงได้ หรือซ่อนเป็นพื้นหลัง และทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือ copy code คนอื่นมาใช้ - การเผยแพร่ file ให้ download ทั้งที่อยู่ใน server ของคุณเอง หรือฝากไว้ server คนอื่น สามารถทำได้ - เผยแพร่เนื้อเพลง ต้องระบุชื่อเพลงและชื่อผู้ร้องให้ชัดเจน - การใส่เพลงที่ร้องไว้เอง ต้องระบุชื่อผู้ร้องต้นฉบับให้ชัดเจน จึงเรียนมาเพื่อโปรดปฎิบัติตาม มิเช่นนั้นทางบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ฯ จะให้ฝ่ายดูแลลิขสิทธิ์ ดำเนินการเอาผิดกับท่านตามกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์
OKNATION
กฎกติกาการเขียนเรื่องและแสดงความคิดเห็น
1 การเขียน หรือแสดงความคิดเห็นใด ๆ ต้องไม่หมิ่นเหม่ หรือกระทบต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ หรือกระทบต่อความมั่นคงของชาติ
2. ไม่ใช้ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่นในทางเสียหาย หรือสร้างความแตกแยกในสังคม กับทั้งไม่มีภาพ วิดีโอคลิป หรือถ้อยคำลามก อนาจาร 3. ความขัดแย้งส่วนตัวที่เกิดจากการเขียนเรื่อง แสดงความคิดเห็น หรือในกล่องรับส่งข้อความ (หลังไมค์) ต้องไม่นำมาโพสหรือขยายความต่อในบล็อก และการโพสเรื่องส่วนตัว และการแสดงความคิดเห็น ต้องใช้ภาษาที่สุภาพเท่านั้น 4. พิจารณาเนื้อหาที่จะโพสก่อนเผยแพร่ให้รอบคอบ ว่าจะไม่เป็นการละเมิดกฎหมายใดใด และปิดคอมเมนต์หากจำเป็นโดยเฉพาะเรื่องที่มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน 5.การนำเรื่อง ภาพ หรือคลิปวิดีโอ ที่มิใช่ของตนเองมาลงในบล็อก ควรอ้างอิงแหล่งที่มา และ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่สิ่งที่ละเมิดลิขสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหรือวิธีการใดก็ตาม 6. เนื้อหาและความคิดเห็นในบล็อก ไม่เกี่ยวข้องกับทีมงานผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซต์ โดยถือเป็นความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นการส่วนตัวของสมาชิก คลิ้กอ่านเงื่อนไขทั้งหมดที่นี่"
OKnation ขอสงวนสิทธิ์ในการปิดบล็อก ลบเนื้อหาและความคิดเห็น ที่ขัดต่อความดังกล่าวข้างต้น โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของบล็อกและเจ้าของความคิดเห็นนั้นๆ
|
||
![]() ![]() |
<< | พฤศจิกายน 2019 | >> | ||||
อา | จ | อ | พ | พฤ | ศ | ส |
1 | 2 | |||||
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |