เห็นรูปแล้วอาหมวยทั้งหลายอย่าเพิ่งน้ำตาไหลตามแม่นันนะคะ..เพราะตอนเดินตลาดแล้วเหลือบไปเห็นหัวกะหล่ำสวยๆวางอยู่บนเขียงผัก..มันทำให้เกือบน้ำตาไหลแน่ะค่ะ..ก็คิดถึงอาม่าของเด็กๆ น่ะสิคะ.. ท่านชอบตุ๋นกะหล่ำปลีกับซี่โครงหมูบ้าง หมูสามชั้นบ้างให้ทานตอนเด็กๆ ตุ๋นจนไม่เห็นเค้าโครงเดิมของกะหล่ำปลีเลยล่ะค่ะ เพราะมันจะเปื่อย..นุ่ม..อร่อยอย่าบอกใคร...วันไหนทำให้ทาน..วันนั้นจะทานได้เยอะเป็นพิเศษ.. พอแม่นันโตเป็นสาว..อาม่าของเด็กๆก็จะชอบวานให้ทำเมนูกะหล่ำปลีให้..ตอนแรกก็ประหม่าเล็กน้อยกลัวโดนตำหนิว่าไม่อร่อย..แต่ที่ไหนได้..พอท่าน (แกล้ง) ชมว่าอร่อยเท่านั้นล่ะ...ก็หยอดทันทีว่า..อาอึ้ม (แม่นันเรียกแม่ว่าอาอึ้มค่ะ) ตี่ หยิก ไอ๊ เจี๊ยะ ต่มคะน้าลุ้ย กะ อัว ตา หน่า อั้ว ไอ๊ มัวะ โหะ ลือ เจี๊ยะ (แปลเป็นไทยว่า อาอึ้ม..เมื่อไหร่อยากทานต้มกะหล่ำปลีอีกบอกได้เลยนะคะ หนูจะทำให้ทาน)  เราผลัดกันทำให้ทานบ่อยค่ะ เพราะโปรดเหมือนกัน.. ถึงขนาดอาอึ้มไปดีแล้ว เวลามาเข้าฝันแม่นัน มักจะมาบอกว่าอยากทานนู่น อยากทานนี่ ทำให้ทานหน่อย..ทำให้น้ำตาไหลทุกทีค่ะ...ดราม่าอีกแล้ว..เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ

เมนูนี้หนุ่มๆโปรดกันทั้งบ้านค่ะ ทำทีนึงก็ต้องซื้อหัวกะหล่ำสวยๆใหญ่ๆสองหัวเป็นอย่างน้อยค่ะ แต่วันนี้ขอตุ๋นกับกระดูกหมูแก้วค่ะ (เป็นส่วนไหนของหมูไม่แน่ใจจริงๆ เพราะตั้งใจซื้อกระดูกหมูอ่อน แต่หมดซะก่อน แม่ค้าบอกให้เอาส่วนนี้มาเพราะอร่อยกว่า  แล้วมันก็อร่อยกว่าจริงๆค่ะ มาดูวิธีทำกันค่ะ

ส่วนผสมและเครื่องปรุง: กระดูกหมูแก้วหั่นท่อน กะหล่ำปลีสวยๆสักสองหัว เห็ดฟาง เห็ดหอมแช่น้ำจนนิ่ม (หั่นและล้างทุกอย่างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้) ฟองเต้าหู้ และเต้าหู้ทอดกรอบ น้ำมันหมู/น้ำมันพืช น้ำตาล เกลือ พริกไทย ซี่อิ๊วขาว และ ซอสหอยนางรม/ซอสเห็ดหอม

วิธีทำ

๑.    ต้มน้ำใส่เกลือเล็กน้อย รอจนเดือดจัด แล้วตักน้ำที่เดือดแล้วเล็กน้อยลวกกระดูกแก้วก่อนที่จะนำลงไปต้ม การที่กระดูกหมูผ่านน้ำร้อนสักรอบจะช่วยล้างคราบคาวหรือสิ่งสกปรกออกค่ะ เสร็จแล้วค่อยๆ ตักเจ้ากระดูกแก้วทั้งหมดลงไปต้ม คอยช้อนฟองออก จนได้น้ำต้มกระดูกหมูที่ใสน่าทาน

๒.     ระหว่างที่เราต้มน้ำกระดูกแก้ว เราตั้งน้ำมันใส่กระทะให้ร้อน ใส่เห็ดฟางและเห็ดหอมลงไปผัดจนขึ้นหอม พักใส่หม้อหรือกะทะอีกใบ (แม่นันมีกระทะก้นลึกสองใบค่ะ เลยใช้ประโยชน์ได้คุ้ม) ใช้น้ำมันที่เหลือ เติมอีกเล็กน้อย นำกะหล่ำปลีที่ผ่าสี่ไว้ลงไปทอดหรือสะดุ้งน้ำมันพอเหลือง เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อยยิ่งน่าทานค่ะ แล้วพักไว้รวมกระทะเดียวกับเห็ดฟางและเห็ดหอมเลยค่ะ เพราะเมื่อทอดหมดแล้วเราจะใช้กระทะนี้ตุ๋นต่อเลยค่ะ

๓.     เมื่อเสร็จขั้นตอนทอดแล้ว ตักกระดูกแก้วพร้อมน้ำซุปใส่ลงในกระทะกะหล่ำปลีพอท่วม ปิดฝา ต้มไว้สักสิบห้านาที แล้วปรุงด้วยน้ำตาล พริกไทย ซี่อิ๊วขาว และซอสหอยนางรมหรือซอสเห็ดหอม คนให้เข้ากัน ชิมให้ได้รสชาติกลมกล่อม ใส่ฟองเต้าหู้และเต้าหู้ทอดกรอบลงไป ปิดฝา เปิดไฟกลาง ตุ๋นต่ออีกสักประมาณหนึ่งชั่วโมงหรือจนกว่าจะได้กะหล่ำปลีที่นิ่มถูกใจ ใช้ช้อนกดดูส่วนที่เป็นก้านขาวๆของกะหล่ำดูก็ได้ค่ะว่านิ่มหรือยัง ถ้ากดแล้วจมลงไปเลยเป็นอันใช้ได้ค่ะ รับรองละลายในปากเลยค่ะ ส่วนกระดูกหมูแก้วก็จะเปื่อยนุ่ม เคี้ยวกรุบๆ อร่อยมากค่ะ... 

๔.     ตักใส่จานเสิร์ฟทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ..อืมมม ไม่อยากอิ่มเลยค่ะ...ลองทำดูนะคะ

 ...อร่อย..ไม่อร่อย..ไม่รู้..แต่ไม่มีเหลือให้ตุ๋นต่อค้างคืนเลยค่ะ...

เคล็ดไม่ลับควรบอกต่อ: ๑. วิธีเลือกซื้อกะหล่ำปลี ให้เลือกผิวสวยๆ หนักๆ โดยลองยกดูจะหนักๆมือ จะได้เนื้อในเรียงกันแน่น ไม่โพร่ง ๒.ก่อนนำกระดูกหมูลงไปต้ม ควรลวกด้วยน้ำร้อนสักหนึ่งรอบ เพื่อล้างคราบคาวออก ขณะต้มคอยช้อนฟองคราบคาวสิ่งสกปรกตกค้างออกให้หมด  หากมีฟองค้างไว้น้ำซุปจะขุ่น และจะทำให้อาหารบูดเร็วค่ะ ๓.เมนูที่มีเห็ดทุกชนิดเป็นส่วนผสม ให้นำลงไปผัดน้ำมันให้ขึ้นหอมก่อนนำไปปรุงค่ะ ทำให้เมนูนั้นๆอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ

เมนูย้อนหลัง

ชมคลิปผัดขนมผักกาด (ชาไช้เถ่าก้วย) และเมนูฮอตฮิตติดอันดับตลอดกาล วิธีทำตัวขนมผักกาดตั้งแต่กระบวนการแรกเลยค่ะ แล้วคุณจะหลงรักขนมหรืออาหารโบราณจีนแต้จิ๋วประเภทนี้ไปเลย

http://www.oknation.net/blog/vrfam/2015/06/30/entry-1

ถั่วงอกผัดไช้โป๊ว (ชาเตาแง้เหลาะไช้โป้ว) http://www.oknation.net/blog/vrfam/2015/07/07/entry-1

หอยลายผัดพริกแกง http://www.oknation.net/blog/vrfam/2015/05/10/entry-1