สวัสดีครับ ผมเจ้าหมีน้อยครับ เมื่อวานผมได้ไปดูหนังเรื่อง Black Panther กับพี่ชายและแม่ของผม ไรอัน คูเกลอร์ ผู้กำกับเรื่อง ครีด (Creed, ซึ่ง ไมเคิล บี. จอร์แดน ก็ได้แสดงหนังเรื่องนี้ด้วย) ซึ่ง นำแสดงโดย แชดวิก โบสแมน, ไมเคิล บี. จอร์แดน, ลูพีตา ญองอ, ดาไน กูริรา, มาร์ติน ฟรีแมน (กลับมารับบท เอฟเวอร์เร็ตต์ โรส), แองเจลา บาสเซตต์, ฟอเรสต์ วิตเทกเกอร์, แอนดี เซอร์คิส  (กลับมารับบท ยูลิซีส คลอว์), แดเนียล คาลูยา, เลทิเทีย ไรท์ และ วินสตัน ดยุก์ ซึ่งในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดำเนินเรื่องโดย ชัลลาหรือแบล็ค แพนเธอร์ เจ้าชายผู้ที่กำลังขึ้นเป็นกษัตริย์ ที่ต้องมาเผชิญหน้ากับ อีริค คิลมังเกอร์ ชายผู้มาจากสายเลือดกษัตริย์ ที่กลับมาเพื่อชิงบันลังก์

    ในหนังเรื่องนี้เราจะเห็นว่านักแสดงทุกคนต่างรับบทบาทและหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไมเคิล บี. จอร์แดน เพราะเขาไม่ได้แค่ล้างมลทิน จากเรื่อง (Not so) Fantastic Four แล้ว เขายังทำให้ตัวร้ายที่ดูธรรมดาอย่าง คิลมังเกอร์ กลายเป็นตัวร้ายที่ดูโดดเด่นและมีมิติมุมมอง เขายังตีบทแตก จนกลายเป็นหนึ่งในวายร้ายที่ยอดเยี่ยมที่สุดในมาเวล เรียกได้ว่า แบล็ค แพนเธอร์ เป็นการการันตีให้เขากลับมาผงาดอีกครั้ง ส่วนเพราะอะไรนั้น ผมจะบอกในภายหลัง เพราะเราจะมาเริ่มจาก ชัลลา ซึ่งรับบทโดย แชดวิก โบสแมน ซึ่งเขาเองก็ตีบทแตกเหมือนกันครับ

       ชัลลา หรือที่เรารู้จักกันในฐานะ “แบล็ค แพนเธอร์” เจ้าชายผู้ที่กำลังจะขึ้นเป็นกษัตริย์ เนื่องจากการตายของ ชาก้า ผู้เป็นพ่อของตน แม้ร่างกายของเขาจะพร้อมที่จะเป็นกษัตริย์ แต่เขารู้ตัวดีว่าใจของเขานั้นยังไม่พร้อม เขาไม่รู้ว่าเขาจะเป็นกษัตริย์ที่ดีได้เหมือนพ่อของตนหรือเปล่า ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ชัลลาต้องก้าวข้ามไปให้ได้ เขาต้องทำภารกิจที่พ่อทำไว้ไม่เสร็จ นั่นคือ การนำตัวยูลิซีส คลอว์ มาลงโทษ เนื่องจากขโมยไวเบรเนี่ยมออกมาจากวาคานด้า แต่ว่า โชคชะตาทำให้เขามาพบกับ อีริค คิลมังเกอร์ ผู้ที่มีแหวนสร้อยคอของอาของตน ทำให้เขาเริ่มสงสัยใน การหายตัวไปของอาของเขา และทำให้เขารู้จากซูริ ผู้เป็นคนที่คอยดูแลเขาว่า ความจริงนั้น ชาก้าได้ฆ่าอาของชัลลา และทิ้งเด็กคนนึงเอาไว้ ชัลลาได้ยินเช่นนั้น ทำให้เขาเกือบจะสูญเสียความเป็นตัวตนของเขา และยังตามมาด้วย การสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจาก คาบิ ผู้เป็นเพื่อนคนสำคัญ เท่านั้นยังไม่พอ อีริค ได้ประกาศตัวว่าเขามีสายเลือดกษัตริย์ นามว่า จาดาก้า ซึ่งก็หมายความว่าอีริคก็เป็นเสมือนน้องชายของเขา และเขาต้องสูญเสียทั้งอำนาจและซูริ ในการประลองที่จะเข้ารับตำแหน่งกษัตริย์แห่งวาคานด้า   มันทำให้เขาแทบจะสูญเสียทุกอย่างในเวลาอันสั้น! แต่โชคยังเข้าข้างเขา เขาได้รับการช่วยเหลือให้รอดจากการตายจาก บาคู แห่งเผ่า จาบาริ และยังสมทบกับ นาเคีย, น้องสาวชูริ, รามอนด้าผู้เป็นแม่ และบิวโ…เอ้ย เอฟเวอร์เร็ตต์ ชัลลาได้ตระนักว่า อีริค นั่นคืออสูรที่พวกเขาและโลกทั้งใบร่วมกันสร้าง และเขาต้องไปหยุดอีริคเดี๋ยวนี้  เขาได้เผชิญหน้ากับอีริคและคาบิ พร้อมกับนาเกีย, ชูริ, โอโคเย่ และบาคู

      ในท้ายที่สุด ชัลลาก็สามารถเลือกได้ว่าจะเป็นราชาแบบไหน เขาเลือกที่จะทำตามความปรารถนา ที่แท้จริงของอีริค นั่นก็คือ ช่วยเหลือประชาชนทั่วโลกที่กำลังลำบาก แม้ว่าจะต้องเผยตัวตน และแม้ว่าพ่อของเขาจะทำให้เขาผิดหวัง เขาก็ยังรักพ่อและภูมิใจที่จะดำเนินเจตจำนงของพ่อของเขา

          ตามที่พูดไว้ตอนแรก เรื่องที่ว่าทำไม อีริค คิลมังเกอร์ ถึงเป็นตัวร้ายที่ยอดเยี่ยม เหตุผลก็คือ โดยทั่วไปแล้ว ตัวร้ายจะเกิดจากความอิจฉา เกิดจากความแค้น เกิดจากความโลภ หรือแม้กระทั่งเกิดจากความเข้าใจที่ไม่ถูกต้อง แต่ อีริค นั้น เป็นตัวร้ายที่ “โลกทั้งโลก” เป็นคนสร้างอสูรตนนี้ขึ้นมา เขาต้องสูญเสียพ่อของตนไปตั้งแต่ยังเด็ก ฝึกฝนตนเอง เข้าร่วมกับหน่วยงานลับและได้ซึมซับความแค้นและความเศร้าจากผู้คนมากมาย และเขาก็รู้ว่า คนเหล่านั้นถูกทอดทิ้ง และต้องการความช่วยเหลือที่มิอาจไปถึง เขาจึงตัดสินใจว่า ต้องมีใครสักคน ที่สามารถให้พลังแก่คนพวกนั้นได้   ไม่ว่าเขาจะต้องฆ่าคนอีกสักกี่คนก็ตาม   ในเรื่องเราจะเห็นว่า อีริคนั้นได้ทำเรื่องที่โหดร้ายมากมาย  ตั้งแต่ยิงผู้หญิงที่เป็นแฟนของตน  ฆ่าคนที่เป็นคนสำคัญในชีวิตของชัลลา หรือแม้แต่ทำลายวัฒนธรรมที่มีมาแต่เดิม  ด้วยการเผาสมุนไพรรูปหัวใจสีม่วง เพื่อที่จะได้ไม่มีใครขึ้นมาอยู่เหนือเขา (โชคดีที่ตอนนั้นนาเคียแอบไปเด็ดมาได้หนึ่งใบ)

         แต่ว่า เมื่อมาสรุปด้วยรวมแล้ว ผมถือว่าเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่มีความใกล้เคียงกับมนุษย์ตามยุคสมัยของโลกเรามากที่สุด เขาเป็นเหมือนผู้ก่อการร้ายในโลกปัจจุบันที่เกิดจากการถูกกดขี่เหยียดหยาม และนักธุรกิจสมัยนี้ที่พยายามตัดเส้นทางความสำเร็จของคนอื่นเพื่อที่จะไม่ให้มีใครมาอยู่เหนือตน   แต่แน่นอน สุดท้ายเขาก็เป็นแค่คนหนึ่งคนเท่านั้นเอง   เขาก็มีความฝันในสมัยเด็ก   ซึ่งเขาก็แค่อยากเห็นวาคานด้าในแบบที่พ่อของตนเคยเล่า และในตอนท้าย เขาแค่อยากให้ชัลลาปล่อยให้เขาตายอย่างสงบและฝังเขาใกล้ทะเลก็พอ

       แน่นอนว่าตอนแรกผมว่าจะเขียนถึงตัวละครทีละตัวเลย   แต่ว่าผมกลัวว่ามันจะยาวเกินไป  ผมบอกเป็นทีละตัวเลยก็แล้วกันครับ  นาเคียนั้นเป็นอดีตคนรักของชัลลา  แต่ก็ยังเลือกที่จะติดตามชายคนนั้น เพราะเธอก็ยังมีความรู้สึกดีๆกับเขา   และแน่นอนว่าชัลลาเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน  ชูริ น้องสาวของชัลลา เจ้าหญิงแห่งวาคานด้า เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดูเหมือนว่าจะมีความสามารถมากกว่าชัลลาหรือแม้แต่สตาร์ค(Iron Man)แต่เพราะเธอยังเด็ก   เธอเลยมักจะชอบแกล้งชัลลาอยู่เป็นประจำ  หากมีโอกาส ซูริ ผู้ให้คำปรึกษาของชัลลา เป็นคนที่ดูเฉลียวฉลาดและทำให้ผมนึกถึงโอบีวัน (จากหนังเรื่อง Star wars) ทั้งเขาและโอบีวันต่างเป็นคนดูแลพระเอก และยังมีความเกี่ยวข้องกับตัวร้าย แถมยังมีจุดจบที่คล้ายกันอีกด้วย   รามอนด้าผู้เป็นแม่ หลังจากที่เสียสามีของตน เธอเองก็คอยช่วยเหลือชัลลาเท่าที่จะช่วยได้   ส่วนโอโคเย่ เป็นนักรบหญิงที่ฝีมือดีมาก   เธอเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่ต้องมารับใช้อีริคในภายหลัง และนั่นทำให้เธอตัดสินใจที่จะสู้กับอีริค หลังจากที่รู้ว่าชัลลายังมีชีวิตอยู่ และคาบิ ซึ่งเป็นเพื่อนของชัลลาและคนรักของโอโคเย่ที่กลับตัดสินใจผิด เขาเลือกข้างกับอีริคเพราะเป็นคนจัดการคลอว์ ผู้ที่ฆ่าพ่อของเขา และเลือกที่จะสู้กับชัลลา ในท้ายที่สุด เขาต้องถูกขับไล่ออกมา

        อีกสามตัวที่เหลือขอแยกออกมา เพราะชอบเป็นพิเศษ นั่นคือ บาคู ในตอนแรกเราจะเห็นว่า เขาเป็นคนบ้าเลือด ป่าเถื่อน แต่ในเวลาต่อมา  เราก็รู้ว่าลึกๆ เขาก็เป็นคนดี  แถมเขาเลือกที่จะให้ สมุนไพรรูปหัวใจ แก่ชัลลาที่บาดเจ็บ   ทั้งๆ โอกาสที่จะได้ครองวาคานด้านั้นอยู่ตรงหน้าแล้ว  และหลังจากที่เขาช่วยเหลือชัลลาในตอนท้าย  เขาก็ได้เข้ามาแทนที่คาบิ อีกตัวก็คือ เอฟเวอร์เร็ตต์  ที่ชอบตัวละครตัวนี้ก็ไม่ได้เพราะอะไร   แต่เพราะผมมองว่า   ถ้าผมไปอยู่ในเรื่องนี้ ก็คงเป็นเหมือนคนๆนี้     ในเริ่มแรกเขาก็เป็นเหมือนคนทั่วไป ที่แค่ต้องการไวเบรเนี่ยมมาเพื่อการส่วนตัวเป็นหลัก   และคิดว่าซุปเปอร์ฮีโร่ต้องถูกควบคุม  แต่พอผ่านไปได้สักพัก เราก็จะเห็นว่า  เขายอมที่จะเอาตัวเองไปเสี่ยงชีวิตเพื่อประเทศที่ไม่ใช่ประเทศของเขา  เขาเคยเป็นคนที่ยึดถือความเป็นจริง   แต่หลังจากที่เขาเจออะไรมามากมายทำให้เขาเริ่มที่จะเปิดใจและยอมที่จะเสี่ยงและสู้แบบไม่ถอย   ส่วนคนสุดท้ายก็คือ ยูลิซีส คลอว์ แม้ว่าเขาจะเลวทราม หรืออาจเรียกได้ว่า เป็นมนุษย์ที่แย่ที่สุด แต่ว่า...ให้ตายสิ   ผมดันรู้สึกเกลียดไม่ลง แถมอันที่จริงอยากให้เขามีบทมากกว่านี้เลยด้วยซ้ำ แถมเจ้าตัวยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้แม้ว่าจะตายแล้วก็ตาม

      ก็จบกันไปแล้วนะครับกับเรื่องBlack Panther นี้   แต่ผมยังไม่จบ จากการที่ดูในเรื่องนี้แล้ว ทั้ง ชาก้า, อีริค, หรือ ชัลลา ต่างก็เป็นกษัตริย์ในรูปแบบที่ต่างกัน    ชาก้า เป็นกษัตริย์ที่ต้องการปกป้องประเทศวาคานด้า แม้ว่าจะต้องหลบตัวออกจากสังคม   แม้ว่าจะหมายถึงจะต้องฆ่าคนในเผ่าพันธุ์เพื่อที่จะปกป้องคนของ “พวกเรา” จะคนของ “พวกมัน”   อีริค นั้นคือกษัตริย์ที่เป็นพวกหัวรุนแรง   ต้องการขยายอำนาจ  แต่ที่ทำไปก็เพื่อทำการช่วยเหลือคนที่อ่อนแอ ไม่มีทางสู้  ไร้ซึ่งทางเลือก ที่แฝงตัวอยู่ตามมุมต่างๆของโลกโดยไม่เลือกวิธี   ในขณะที่ ชัลลา ในตอนแรกนั้น เขายังไม่มั่นใจว่าตนจะเป็นกษัตริย์ที่ดีหรือเปล่า   เขาจึงเลือกที่จะสานต่อเจตนารมย์ ของพ่อของเขา   แต่เมื่อได้รู้ความลับอันดำมืดแล้ว   ทำให้เขาไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขาทำนั้นถูกหรือเปล่า และเมื่อได้รู้ความต้องการที่แท้จริง   เขาจึงตัดสินใจที่จะสนองความต้องการของอีริค โดยที่ยังยึดถือในความสงบสุขของโลก   โดยที่ยังคงไว้ซึ่งเจตนารมณ์ของพ่อของตน

       ผมว่ามันเป็นการจบที่สมบูรณ์ ในการที่ให้กษัตริย์ชัลลาแห่งอณาจักรวาคานด้า (แบล็ค แพนเธอร์) เข้ามาร่วมประชุม ซึ่งผมมองดูแล้วมันเหมือนสหประชาชาติ ที่ผู้นำของต่างประเทศมาประชุมกัน ชัลลาเปิดเผยให้ทั้งโลกได้รู้ว่า อณาจักรวาคานด้า จะทำอะไรให้ชาวโลกบ้าง โดยผมชอบฉากที่ว่า มีผู้นำประเทศที่อยู่ ณ ที่นั้น แอบกระสิบกันว่า “ประเทศกสิกรรม จะทำอะไรเพื่อช่วยโลกได้เหรอ” แต่ชัลลาไม่ได้ตอบ แต่เขายิ้มด้วยความมั่นใจ เพราะพวกนั้นไม่รู้ว่า ไวเบรเนียมที่มีค่าและแพงที่สุด ที่ทุกคนต่างโหยหา มันมาจากวาคานด้า และเมื่อเราดูในหนัง เราจะเห็นว่า วาคานด้านั้นมีวิทยาการณ์และเทคโนโลยีที่ล้ำเลิศ มากกว่าที่คนนอกคิด

        สำหรับผมแล้ว  “ประเทศที่ทำกสิกรรม แล้วมันยังไงเหรอ”  นี่ผมกลายเป็นคนแบ่งพวกเขาพวกเราแล้วใช่ไหมครับเนี่ย  ถ้าไม่มีประเทศกสิกรรม แล้วใครเล่าที่จะปลูกพืชผัก เลี้ยงสัตว์ ส่งออกขาย เป็นเหมือนซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ ที่เลี้ยงคนบนโลกใบนี้ให้มีชีวิต เพราะอาหารเป็นสิ่งสำคัญ  ผมคิดว่าสักวัน ถ้าประเทศของเรา มีการจัดการบริหารที่ดี ใช้วิทยาการต่างๆ เพื่อทำผลิตผลจากพืชและสัตว์ให้ดีและมีคุณภาพ ส่งออกขายไปทั่วโลก หรือ จะทำเพียงแค่เศรษฐกิจพอเพียง  อย่างที่ในหลวงผู้เป็นที่รักยิ่งของเรา ได้ให้แนวทางไว้ ประเทศเราก็จะอยู่รอด และถ้าเราทำให้มันมีมากขึ้น  เราอาจจะสามารถไปต่อรองกับมหาอำนาจ ทีสร้างแต่อาวุธมาทำลายล้างกัน   นี่ผมคิดแบบผมนะครับ

        ขอบคุณสำหรับการอ่านเรื่องราวที่ยาวนาน   หวังว่าผู้อ่านจะได้ประโยชน์จากเอ็นทรี่นี้บ้าง  ขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมไปดูหนังมาแล้วไม่ค่อยได้เขียน เพราะไม่ค่อยมีเวลาจริงๆ แต่สำหรับแบล็ค แพนเธอร์ ไม่เขียนไม่ได้เลยครับ ขอบคุณครับ

เจ้าหมีน้อย